ลด 10% งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมรถยนต์ ศึกษาและปฏับัติเกี่ยวกับหลักการทำงาน โครงสร้าง อุปกรณ์ วงจรไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมรถยนต์ ระบบเบรก ระบบบังคับเลี้ยว ระบบทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบความปลอดภัย การใช้เครื่องมือตรวจสภาพ หนังสือ 166.
งานไฟฟ้ารถยนต์ (PDF) มีเนื้อหาครอบคลุมเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า หลักการไฟฟ้าเบื้องต้น แบตเตอรี่ ระบบสตาร์ต ระบบจุดระเบิด ระบบประจุไฟฟ้า ระบบไฟแสงสว่างและสัญญาณไฟเตือน ระบบปัดน้ำฝนและระบบฉีดน้ำล้างกระจก และเกจวัดบนแผงหน้าปัด e-books(PDF)? 180. 00 บาท เนื้อหาโดยสังเขป หนังสือ "งานไฟฟ้ารถยนต์" เล่มนี้ มีเนื้อหาครอบคลุมเครื่องมือวัดทางไฟฟ้า หลักการไฟฟ้าเบื้องต้น แบตเตอรี่ ระบบสตาร์ต ระบบจุดระเบิด ระบบประจุไฟฟ้า ระบบไฟแสงสว่างและสัญญาณไฟเตือน ระบบปัดน้ำฝนและระบบฉีดน้ำล้างกระจก และเกจวัดบนแผงหน้าปัด นอกจากนี้ยังได้บรรจุเนื้อหาในภาคทฤษฎีไว้ตรงตามหลักสูตรของนักศึกษาระดับ ปวช.
ทฤษฎีไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น Type: Ebook Publisher: SE-ED Author: เชื้อ ชูขำ ISBN: 9745343374 Language: thai Number of Pages: 313 File Size: 7.
10 | By Krutabao | Last updated: Mar 22, 2022 | Total Attempts: 7857 Settings Feedback During the Quiz End of Quiz Difficulty Sequential Easy First Hard First กลุ่มสาระการเรียนรู้การ านอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนตาเบาวิทยา ตำบลตาเบา อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยครูจำรัส เสียงเพราะ E-mail [email protected] 1. วิธีการในข้อใดที่ทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้าน้อยที่สุด A. ความร้อน B. อำนาจแม่เหล็ก C. ปฏิกิริยาเคมี D. การเสียดสี 2. วิธีการในข้อใดที่ทำให้เกิดแรงดันไฟฟ้ามากที่สุด แสงสว่าง 3. ข้อใดเป็นวิธีการทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตอย่างง่าย เสียดสี แรงกดดัน 4. ตัวนำไฟฟ้าเคลื่อนที่ตัดกับสนามแม่เหล็ก ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร กระแสไฟฟ้า กำลังไฟฟ้า ความต้านทานไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า 5. ผลที่เกิดตามมาจากปรากฏการณ์แรงดันไฟฟ้าสูงขึ้น กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น อิเล็กตรอนเคลื่อนที่เร็วขึ้น อะตอมขาดอิเล็กตรอนมากขึ้น โมเลกุลเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 6. ปรากฏการณ์ "ลมพัดกังหันหมุน" นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร ใช้แรงลมไปทำปฏิกิริยาเคมี นำไปใช้ในการเสียดสีกับตัวนำ นำไปใช้ให้เกิดแรงกดดันทางไฟฟ้า นำไปใช้หมุนขดลวดตัดกับสนามแม่เหล็ก 7.
1 กระแสไฟฟ้ารวมของวงจรขนาน จะมีค่าเท่ากับกระแสไฟฟ้าย่อยที่ไหลในแต่ละสาขาของวงจรรวมกัน 2. 2 แรงดันไฟฟ้าตกคร่อมส่วนต่างๆ ของวงจร จะเท่ากับแรงดันไฟฟ้าที่แหล่งกำเนิด 2. 3 ความต้านทานรวมของวงจร จะมีค่าน้อยกว่าความต้านทานตัวที่น้อยที่สุดที่ต่ออยู่ในวงจร 3. แบบผสม ( Compound Circuit) การต่อวงจรทั้งแบบอนกรมและแบบขนานเข้าไปในวงจรเดียว การต่อแบบนี้ โดยทั่วไปไม่นิยมใช้กัน เพราะเกิดควา มยุ่งยาก จะใช้กันแต่ในทางด้านอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ตัวต้านทานตัวหนึ่งต่ออนุกรมกับตัวต้านทานอีกตัวหนึ่ง แล้วนำตัวต้านทานทั้งสองไปต่อตัวต้านทานอีกชุดหนึ่ง จะสังเกตเห็นได้ว่าการต่อวงจรแบบผสมนี้เป็นการนำเอาวงจรอนุกรมกับขนานมารวมกัน และสามารถประยุกต์เป็นรูปแบบอื่นๆได้ ข้นอยู่กับการนำไปใช้ให้เหมาะสม เพราะการต่อแบบผสมนี้ไม่ม่ กฏเกณฑ์ตายตัว เป็นการต่อเพื่อนำค่าที่ได้ไปใช้กับงานอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ในวงจรอิเล็กทรอิกส์ เป็นต้น ลักษณะการต่อวงจร 1. การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม คือ การนำขั้วของอุปกรณ์มาต่อเรียงกัน เหมือนการต่อโบกิ้ หรือตู้รถไฟ 2. การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน คือ การนำขั้วของอุปกรณ์ทั้งหมด ที่เป็นขั้วด้านเดียวกันมาต่อรวมกัน 3.