การเลี้ยงปลาสวยงามหรือการเลี้ยงปลาตู้นั้นผมจะแบ่ง ประเด็นออกเป็น 3 ประเด็นใหญ่ๆซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่ผู้รักปลาสวยงามหรือผู้ที่สนใจจะเลี้ยงปลาสวยงามควรทราบ ได้แก่ 1. อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลา 2. อาหารของปลาสวยงาม 3. โรคของปลา ซึ่งผมจะอธิบายประเด็นต่างๆตามที่ได้ศึกษา สังเกตุและเรียนรู้มาด้วยตนเองดังนี้ 1.
ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่า เพื่อความเป็นสิริมงคลควรเลี้ยงปลาทั้งหมด 9 ตัว ตัดสินใจจะเลี้ยงปลาสวยๆ งามๆ เป็นปลามงคล สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง เสริมฮวงจุ้ย พลังบวก และส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าทางด้านการงาน การเงิน อย่างปลาคาร์ปทั้งที จะเลี้ยงในบ่อธรรมดาก็ดูจะน่าเสียดายไปซักหน่อย มาเติมความคิดสร้างสรรค์กันอีกนิด ลงทุนกันอีกหน่อยเพื่อสร้างพื้นที่ผ่อนคลายดีๆ อีกมุมให้กับบ้านกันดีกว่าด้วย 20 ไอเดียที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณได้ตกแต่งจัดวาง บ่อปลาคาร์ป แบบเก๋ๆ ให้เป๊ะปังทั้งปลาทั้งบ่อ คราวนี้ล่ะ มุมที่เฉิดฉายที่สุดทั้งในบ้านและนอกบ้าน คงหนีบริเวณบ่อปลาคาร์ปสุดที่รักไม่พ้นอย่างแน่นอน!
ตะไคร่น้ำกับปลาสวยงาม ที่คนเลี้ยงปลาสวยงามอาจจะยังไม่รู้ By admin in บทความ on 29 มี. ค. 2562 - ตะไคร่น้ำกับปลาสวยงาม เหมือนเป็นของคู่กัน หลายคนคงเบื่อ ที่ต้องขัดตู้ ขัดบ่อ ล้างตู้ แปปๆตะไคร่แม่งขึ้นอีกและ เปลี่ยนน้ำกี่ทีน้ำก็ยังไม่ใส แต่ตะไคร่น้ำเนี้ยแหละที่ธรรมชาติตั้งใจสร้างมา เพื่อปลาของเรา ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จัก เจ้าตะไคร่น้ำกันก่อน ที่เราเห็นในน้ำ เป็นสีเขียวๆ เยอะจนมองไม่เห็นปลา เกิดจากการรวมตัวกัน ของสาหร่ายๆหลายชนิดคือ สาหร่ายเซลล์เดียวและสาหร่ายหลายเซลล์ แล้วมันต่างกันยังไง เซลล์เดียว กับ หลายเซลล์? ถ้าเราสังเกตดู มันจะมีสาหร่ายที่ลอยตัว แขวนลอยในน้ำ เป็นเส้นยาวๆ อันนี้คือสาหร่ายเซลล์เดียว แต่อันที่เกาะตามผนังตู้ ผนังบ่อ อันนี้คือสาหร่ายหลายเซลล์ ในช่วงแรกๆ จะเกิดสาหร่ายเซลล์เดียวขึ้นก่อน ช่วงนี้น้ำจะเขียวๆ บางครั้งจะมองไม่เห็นปลากันเลยทีเดียว หลังจากนั้นจะค่อยๆเกิดสาหร่ายหลายเซลล์ขึ้นมา เกาะตามพื้นตู้ ตามผนังบ่อ แล้วมันจะเริ่มแย่งอาหารสาหร่ายเซลล์เดียว สาหร่ายเซลล์เดียวก็จะลดจำนวนลง ถ้าสังเกตเวลาเราขัดตู้ ขัดบ่อใหม่ๆ แปปๆน้ำเขียวอีกและ แต่ถ้าทิ้งไว้ซักระยะน้ำจะเริ่มใสขึ้นเองครับ เอาเป็นว่าจะสาหร่ายกี่เซลล์ ผมขอเรียกว่าตะไคร่หมดเลยก็แล้วกันครับ แล้วมันดียังไงล่ะเจ้าตะไคร่น้ำเนี้ย?
บ่อเลี้ยงปลาหางนกยูงสวยงามแบบธรรมชาติ - YouTube
12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22. 23. 24. 25. ที่มา: homemydesign Advertisement คิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง...! ?
บ่อเลี้ยงแบบบ่อกรองและบ่อเลี้ยงอยู่ในดิน วิธีสร้างบ่อกรองแบบนี้ไม่สามารถทำวาล์วไว้ที่ก้นบ่อ ได้เหมือนสองวิธีแรกได้ เพราะระดับน้ำของก้นบ่อกรอง อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินปกติ ดังนั้นจึงต้องทำก้นบ่อกรองให้ลาดเอียงไปทางด้านช่องของน้ำล้น เข้า ที่ไม่ได้ใส่วัสดุกรองของแต่ละช่อง และช่องว่างของช่องน้ำล้นเข้าต้องกว้างพอที่จะใส่ปั๊มน้ำลงไปได้ เพราะเมื่อต้องการล้างบ่อกรอง โดยใช้ วิธีการล้างกลับ (Reverse Flow) โดยการให้น้ำไหลจากด้านบนกลับไปที่ด้านล่างจนกว่าน้ำจะใสนั้น จะต้องใช้ปั๊มน้ำเป็นตัวดึงน้ำออกแทนการเปิดวาล์วแบบสองวิธีแรก 3. บ่อเลี้ยงแบบบ่อกรองอยู่บนดินและบ่อเลี้ยงขุดลงในดิน วิธีสร้างบ่อกรองใช้เหมือนวิธีแรกแต่บ่อพักต้องสร้างลึก ลงไป ให้ เท่ากับก้นบ่อเลี้ยง แล้วใช้ปั้มน้ำปั้มน้ำจากบ่อพัก มาบ่อกรอง ขนาดของบ่อพัก ไม่จำกัดจะใหญ่หรือเล็กก็ได้ การล้างบ่อกรองก็เหมือนวิธีแรก
การเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม ๑.
โรคของปลา โรคของปลา ซึ่งโรคสำหรับปลาสวยงามนั้นเมื่อเป็นแล้วควรรีบรักษาให้เร็วที่สุดเพราะนอกจากจะช่วยรักษาอาการของปลาตัวนั้นๆแล้วยังช่วยลดการแพร่กระจายไปยังปลาตัวอื่นๆเนื่องจากปลาในตู้เป็นการอาศัยรวมกันในพื้นที่จำกัด การติดเชื่อจึงเกิดได้ง่ายกว่าปลาในธรรมชาติ โรคที่เกิดในปลาส่วนมีสาเหตุดังนี้ 1. โรคที่เกิดจากอาหาร ทำให้ปลามีรูปร่างไม่สมประกอบ อาจเกิดมาจากสภาวะแวดล้อมไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดจากกินอาหารที่ขาดวิตามินและเกลือแร่ 2. โรคที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม เกิดจากความเป็นกรดด่างของน้ำ การเปลี่ยนแปลงของน้ำโดยฉับพลันจะทำใหเปลามีอาการสีจางและเฉื่อยชา 3. โรคที่เกิดจากรา พบมากได้แก่โรค gill rot เกิดจากราเส้น ซึ่งจะปรากฎเป็นผื่นแดงที่เหงือก ต่อมาจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ทำให้ปลาหายใจไม่สะดวก 4.
(ขึ้นอยู่กับขนาดของ ปลาที่จะเลี้ยง) และขอบบ่อควรสูงกว่าระดับน้ำในบ่อ 20-30 ซม. ถ้าเป็นบ่อแบบขุดลงดินขอบบ่อก็ควรสูงกว่าพื้นดินไม่น้อยกว่า 30 ซม. เพื่อป้องกันน้ำท่วมบ่อ ก้นบ่อควรเทพื้นให้ลาดเอียง 20-30 องศา จากริมก้นบ่อโดยรอบเข้าหาใจกลางบ่อที่เป็นเป็นตัว U และสะดือบ่อที่อยู่ใจกลางบ่อก็ควรมีขนาดที่ไม่เล็กจนเกินไป และอาจมีได้หลายสะดือ ถ้าบ่อมีขนาดใหญ่มากๆ หรือมีส่วนที่เว้าเยอะ วัสดุในบ่อกรองให้ใช้หินกรองสามขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ปั๊มน้ำก็ควรใช้ที่เงียบ และแรงเหมาะสมกับขนาดบ่อ บ่อทรงกลมจะช่วยให้ไม่ต้องใช้ปั๊มน้ำขนาดใหญ เพื่อให้น้ำในบ่อหมุน เพราะถ้าน้ำหมุนก็จะทำให้ขี้ปลาไปรวมที่ก้นบ่อเร็ว และจะลงไปในสะดือไปที่บ่อกรองได้ง่าย ที่ตั้งของบ่อก็ควรให้มีแดดส่องถึง อย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง หรือให้แสงส่องลงบ่อประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ 1. บ่อเลี้ยงแบบบ่อกรองและบ่อเลี้ยงอยู่บนดิน บ่อแบบนี้จะสะดวกต่อการจัดการ เพราะน้ำที่มาจาก สะดือบ่อเลี้ยง จะมาที่บ่อกรอง โดยตรง ไม่ต้องใช้การปั๊มจากบ่อพัก มาบ่อกรอง และการล้างบ่อกรองก็ง่ายเพราะบ่อกรองอยู่บนดิน เพียงแค่เปิดวาล์วที่ทำไว้กันบ่อกรองต่อกับสะดือบ่อกรองทุกห้อง โดยใช้วิธี ล้างกลับ (Reverse Flow) โดยการให้น้ำไหลจากด้านบนกลับไปที่ด้านล่างจนกว่าน้ำจะใส ประมาณปีละ2-3 ครั้งขึ้นอยู่กลับปริมาณปลาและการให้อาหาร ข้อสำคัญก้นบ่อกรองจะต้องเทลาดเอียงทุกห้อง และมีสะดือบ่อเหมือนบ่อเลี้ยง ให้ตะกอนมารวมกันเพื่อง่ายต่อการกำจัด 2.
การเลี้ยงปลาในบ่อปูน บ่อเลี้ยงของปลาคราฟ ถ้าเป็นการเลี้ยงปลาคราฟในบ่อปูน ควรเป็นบ่อซีเมนต์อยู่ในที่มีร่มเงาพอสมควร ไม่ควรอยู่กลางแจ้ง เพราะจะทำให้ปลามีสีสันที่จืดจางลง และยังโตช้าอีกด้วย ความลึกของระดับน้ำไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร ความลึกที่เหมาะสมที่สุด คือ 1.