Bad (แบด) เป็นคำคุณศัพท์ (adjective) ส่วน badly (แบด-ลิ) เป็นคำวิเศษณ์ (adverb) โดยมีคำตรงข้ามหรือมีความหมายต่างไปจาก bad คอ good ส่วน badly คือ well หลักการใช้ 1. bad (adjective) ใช้วางหน้าคำนาม (bad + noun), วางไว้หลัง verb to be, หรือวางไว้หลัง linking verb อาทิ seem, smell, feel, appear, turn, become เป็นต้น ตัวอย่าง The weather today is bad. อากาศวันนี้แย่ The football match was postponed because of the bad weather. การแข่งฟุตบอลถูกเลื่อนไปเพราะว่าอากาศไม่ดี This soup smells bad. Don't eat it. ซุปถ้วยนี้กลิ่น ไม่ดีแล้ว อย่ากิน 2. bad at (แบด แอ็ท) มีความหมายว่า "ไม่เก่ง" (not able to do it well) มีความหมายตรงข้ามกับ good at (กุด แอ็ท) แปลว่า "เก่ง" I am bad at mathematics. ผมไม่เก่งคณิตศาสตร์ Are you good or bad at English? คุณเก่งหรือไม่เก่งภาษาอังกฤษ 3. badly เป็นคำวิเศษณ์ประเภท adverb of manner (แอดเวิบ ออฟ แมน เนอะ) ซึ่งบ่งบอกกิริยาอาการ โดยมีความหมายว่า "ไม่เก่ง" และยังเป็นคำวิเศษณ์ ประเภท adverb of degree (แอดเวิบ ออฟ ดีกรี) ซึ่งบ่งบอกระดับความแรง มีความหมายว่า "มาก, แรงมาก, ร้ายแรงมาก" (very much) โดยคำว่า badly ในกรณีนี้ วางไว้หน้าคำกริยา want, need หรือวางไว้หน้าคำกริยาช่อง 3 ได้แก่ hurt, injured, wounded (1) กรณีที่เป็น adverb of manner He plays basketball badly, but he plays football well.
สมัยเด็ก ๆ ผมท่องไวยกรณ์ภาษาอังกฤษมาเยอะ พอได้มาใช้ภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา ก็เริ่มสังเกตว่า ในภาษาพูดเขาก็มีการใช้ที่ผิดไวยกรณ์อยู่เหมือนกัน พอคนใช้เยอะ ๆ เป็นที่นิยม จากผิดก็กลายเป็นไม่ผิดสิครับ คือ ผิดไวยกรณ์ แต่ไม่ได้ผิดภาษา ตัวอย่างอันหนึ่งที่เห็นก็คือ คนอเมริกันก็มีการใช้ good เป็นคำขยายกริยา หรือ adverb ด้วย ทั้งที่ good เป็นคำคุณศัพท์ขยายนาม ส่วนคำขยายกริยา คือ well ตัวอย่างเช่น How are you doing? คำถามนี้ก็ใช้ถามเหมือน How are you? ก็ตอบได้ว่า I'm doing good. หรือ I'm doing fine. หรือ I'm doing well. ก็ได้ fine เป็นได้ทั้ง adjective กับ adverb ดังนั้นไม่ผิดไวยการณ์ แต่ good นี่ผิดไวยกรณ์ แต่ใช้ได้ในที่นี้ เพราะ เจ้าของภาษาเอง เขาใช้กัน บางทีเขาก็ตอบย่อ ๆ ว่า Good. หรือ I'm good. ไม่ได้หมายความว่า ฉันเป็นคนดีนะครับ ในที่นี้ก็เหมือน I'm fine. คือ ฉันสบายดี How is it working? เช่นเดียวกัน ตอบได้ว่า It's working good หรือ fine หรือ well. อันนี้ ไม่ได้หมายความว่า good ใช้เป็นคำ adverb ได้ทั่วไปนะครับ ใช้ได้เฉพาะแค่บางที่ และก็เฉพาะในภาษาพูดเท่านั้น
อยู่ในรูปของ predicative adjective. เช่น I hope you are well. ฉันหวังว่าคุณสบายดี ( ใช้อย่าง predicative adjective ขยาย you) He did well on the examination. เขาทำข้อสอบได้ดี (ใช้อย่าง adverb of manner ขยายกริยา did) B. Adverbs of manner, location, time and frequency ซึ่งมีรูปเดียวกับ Adjective fast เช่น fast train fast เช่น run fast hard เช่น hard worker hard เช่น work hard little loud loud or loudly much straight Adverb of Location far เช่น A man of far vision. far เช่น He lives far up the mountain. high low near wide Adverb of Time long เช่น long journey long เช่น live long first late early daily เช่น daily newspaper daily เช่น go to work daily. ( every day) เช่น แต่อย่างไรก็ดี มี adjectives บางตัวที่ลงท้ายด้วย ly ซึ่งไม่มี adverb ที่สอดคล้องกัน เช่น friendly likely lively lonely silly ugly เมื่อต้องการที่จะใช้คำเหล่านี้ขยายกริยา ต้องทำเป็นวลี เช่น He behaved in a friendly manner. เขาทำตัวเป็นมิตร They acted in a silly way. เขาทำกริยาโง่ๆ C. Adverbs ซึ่งมีความหมายแตกต่างออกไป เมื่อลงท้ายด้วย ly Adverb ความหมาย hard ยาก ลำบาก ( ต้องใช้ความพยายาม) hardly ไม่ค่อยมี ( scarcely) สูง ความหมายตรงข้ามกับ "ต่ำ่" highly อย่างมาก ( very well) สาย ช้า ตรงข้ามกับ early ( เร็ว) lately เมื่อเร็วๆนี้ ( recently) ใกล้ ตรงข้ามกับ ไกล ( far) nearly เกือบจะ ( almost) กว้าง ตรงข้ามกับแคบ ( narrow) widely โดยทั่วไป ( commonly) I worked hard.
Adverbs ส่วนมากมีแหล่งที่มาจากคำคุณศัพท์ ( adjectives) โดยการเติมปัจจัย ( suffix) -ly คำคุณศัพท์ตัวนั้นจะกลายเป็น คำกริยาวิเศษณ์ แต่ก็มี adverb บางคำที่มาจาก nouns โดยการเติม - ly เช่น nouns adverbs day daily รายวัน week weekly รายสัปดาห์ month monthly รายเดือน year yearly รายปี A. Adverb of Manner ที่มาจาก adjectives โดยการเติม -ly Adverbs ที่มาจาก adjectives ส่วนมากจะเป็น Adverbs of Manner โดยมีหลักการเติม - ly ข้างท้ายดังนี้ 1. เติม - ly โดยตรง เช่น Adjective Adverb of Manner bad badly complete completely normal normally surprising surprisingly 2. Adjectives ที่ลงท้ายด้วย ic เติม - al และตามด้วย -ly เช่น dramatic dramatically scientific scientifically specific specifically 3. Adjectives ที่ลงท้ายด้วย le หากหน้า -le เป็นอักษรเสียงพยัญชนะ เปลี่ยน e เป็น y Adjectives Adverbs of Manner favorable favorably humble humbly simple simply 4. Adjective ที่ลงท้ายด้วย le หากหน้า le เป็นอักษรเสียงสระส่วนมากจะเติม ly เลย เช่น agile agilely sole solely ยกเว้น whole ซึ่ง e ถูกตัดออกก่อนเติม ly whole wholly 5.
= แดเนียลเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ This is my friend. = นี่คือเพื่อนของฉัน I am the first child of my family. = ฉันเป็นลูกคนแรกของครอบครัว Emma wants to buy two pens. = เอ็มม่าต้องการจะซื้อปากกา 2 ด้าม สรุป adjectives นั้นคือ คำคุณศัพท์ ที่ใช้ขยายคำนาม และมีอยู่ 2 ตำแหน่งในประโยค คือ วางไว้ข้างหน้าคำนามที่มันจะไปขยาย หรือ วางไว้ข้างหลัง Verb to be หรือ กริยาพิเศษบางตัว ค่ะ หวังว่าคงพอเข้าใจกันแล้วนะคะ และเพื่อนๆรู้หรือเปล่าวคะ ว่า adjectives นั้น มีอยู่ทั้งหมดกี่ประเภท? อ่านเพิ่ม --> ประเภทของ adjectives Related Posts (บทความที่คนส่วนมากอ่านต่อ) Comment and Shared