อาคารโรงงาน หน้างาน Factory Land พุทธมณฑลสาย 5 งานรื้อหลังคากระเบื้องเก่า เปลี่ยนเป็นเมทัลชีทชนิดอลูซิงค์ ความหนา 0. 40 มม. (เหล็กบลูสโคป) ติดฉนวนกันความร้อน Pu Foam หนา 25 มม. และปิดทับด้วยเมทัลชีทชนิดอลูซิงค์ หนา 0. 28 มม. ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการทำฝ้าเพดาน metal sheet, เมทัลชีท, เมทัลชีทชนิดอลูซิงค์, เมทัลชีทอลูซิงค์, เหล็กบลูสโคป, ฉนวนกันความร้อน pu foam
ผู้ว่าฯนครปฐม สั่งปิด 'โรงงานอาหาร' พุทธมณฑลสาย 5 ให้คนงานทั้งหมดกักตัว 14 วัน พร้อมทั้งห้ามให้บุคคลใดเข้าไปหรือออกจากสถานที่เด็ดขาด เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด 10 มิ. ย. 2564 – นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าฯนครปฐม ได้มีคำสั่งจังหวัดนครปฐมที่ 1587/2564 เรื่อง สั่งปิดสถานที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีสาระสำคัญคือ 1. ให้ปิดสถาน บริษัท แหลมทองผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เลขที่ 87 หมู่ 9 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ต. ไร่ขิง อ. สามพราน จ. นครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อแพร่ระบาด 2. ให้จัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคในบริษัท แหลมทองผลิตภัณฑ์อาหาร ทั้งนี้ห้ามมีการชุมนุมทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกันในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งห้ามบุคคลใดเข้าไปหรือออกจากสถานที่ดังกล่าวเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค 3. บุคคลใดที่ทำงานอยู่ บริษัทแหลมทองผลิตภัณฑ์อาหาร ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคในพื้นที่ดำเนินการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ณ ที่พักอาศัย หรือสถานที่ตามที่ทางราชการ กำหนดเป็นเวลา 14 วัน 4. ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควบคุม กำกับดูแล และสนับสนุนให้การดำเนินการจัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคตามข้อ 2 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรม หากมีปัญหาอุปสรรคให้รายงานให้จังหวัดทราบทันที **ประกาศดังกล่าวเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 9-23 มิถุนายน พ.
ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ควบคุม กำกับดูแล และสนับสนุนให้การดำเนินการจัดตั้งสถานที่ป้องกันและควบคุมโรคตามข้อ 2 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรม หากมีปัญหาอุปสรรคให้รายงานให้จังหวัดทราบทันที ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ. ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9-23 มิถุนายน พ. 2564 เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line @Matichon ได้ที่นี่